บอร์ด ความรัก,มากราบพระอาจารย์สมพรที่สำนักป่าธรรมญาณมุนี ประสบการณ์ช.. โพสท์โดย มารคัสมากราบพระอาจารย์สมพรที่สำนักป่าธรรมญาณมุนี (2)//////ตอนที่ยังเป็นพระหนุ่ม พระอาจารย์สมพรเป็นศิษย์คนสุดท้ายของ "พระในดง"ชื่อดังอย่างพระอาจารย์ชาญณรงค์ อภิชิโต (พ.ศ.2467-2536) โดยที่พระหนุ่มสมพรเป็นช่วยนำศพของพระอาจารย์ชาญณรงค์เก็บลงในศิลาสีดำเอาใบชาเทลงทั่วร่างพระอาจารย์ชาญณรงค์แล้วปิดหินฝังไว้ใต้ดินใต้ศาลาใหญ่"ตำนานพระในดง" แยกไม่ออกจากตำนานของหลวงปู่เทพโลกอุดรพระอาจารย์สมพรเล่าให้ผมฟังว่า เมื่อสี่สิบห้าสิบปีก่อน หลวงปู่เทพโลกอุดรเคยลงมาสอนศิษย์ฆราวาส 3 คน ศิษย์คนโตต่อมาบวชเป็นพระและมรณภาพไปแล้วศิษย์คนรองชื่อ "บุญทอง"อยู่ที่ลาว ยังมีชีวิตอยู่แต่ร่องรอยเร้นลับ เพราะท่านจะเป็นฝ่ายมาหาผู้ที่มีบุญสัมพันธ์กับธาตุกายสิทธิ์เองศิษย์คนเล็กชื่อ "xxxxx" ที่ผมเรียกท่านว่า "อาจารย์ในดง" เพราะท่านเก็บตัวบำเพ็ญดุจมุนีในดง ท่านอยู่ที่อาศรมเทพมังกร จังหวัดชัยภูมิ และเป็นครูธาตุกายสิทธิ์ของผมหลังจากที่พระอาจารย์ชาญณรงค์ละสังขารไปแล้วในปี พ.ศ. 2536 ตอนนั้นพระหนุ่มอย่างพระสมพรยังฝึกวิชาทางจิตสายพระในดงไม่สำเร็จ แต่ด้วยบุญบารมีที่พระอาจารย์สมพรได้บำเพ็ญมาตั้งแต่อดีตชาติสมัยที่ท่านเป็นศิษย์เณรของหลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด และในชาตินี้ท่านยังบวชเณรตั้งแต่อายุ 12 ปีและบวชต่อเป็นพระโดยไม่สึก อีกทั้งพระอาจารย์ยังมีอุปนิสัยเด็ดเดี่ยวมุ่งมั่นในการศึกษาธรรมและฝึกฝนวิชาทางจิตมาอย่างต่อเนื่องทำให้ท่านอาจารย์บุญทอง ศิษย์ฆราวาสคนรองของหลวงปู่เทพโลกอุดรที่อยู่ที่ลาวเป็นฝ่ายมาหาหลวงพ่อสมพรและถ่ายทอดวิชาให้ นี่เป็นเหตุการณ์เมื่อสิบสามปีก่อนก่อนอื่นท่านอาจารย์บุญทองได้แสดงให้หลวงพ่อสมพรดูต่อหน้า ด้วยการเอามือแตะที่ทรวงอกของท่านเบาๆแล้ว คาย "พระธาตุทอง" ออกมาจากร่างผ่านลำคอมาอยู่ที่ฝ่ามือของท่านให้หลวงพ่อสมพรเห็นจะจะ จากนั้นท่านอาจารย์บุญทองก็กลืนพระธาตุทองกลับเข้าไปอยู่ในตัวท่านใหม่"นี่คือวิชาพุทธะกายสิทธิ์ของหลวงปู่เทพโลกอุดร ... วันนี้เราจะรับท่านเป็นศิษย์แล้วทำพิธีกลืนพระธาตุทองให้ท่าน"ท่านอาจารย์บุญทองพูดกับหลวงพ่อสมพรสั้นๆ จากนั้นท่านก็นำพระธาตุทองที่ท่านเรียกมาจากเจดีย์โบราณที่ภาคเหนือให้มาปรากฏที่บาตร จากนั้นก็ทำพิธีกลืนพระธาตุทองให้แก่หลวงพ่อสมพร โดยหลวงพ่อสมพรต้องกลืนพระธาตุทองเข้าไปหลายองค์ติดต่อกันโดยท่านอาจารย์บุญทองได้เสกพระธาตุทองให้เข้าไปอยู่ในกล้วยสุกที่ตัดเป็นชิ้นพอกลืนได้โดยไม่ต้องเคี้ยว"ต่อไปท่านจะกลายเป็นปรมาจารย์ธาตุกายสิทธิ์แห่งยุค ด้วยอานุภาพของพระธาตุทองในวิชาพุทธะกายสิทธิ์นี้"นี่คือวาจาศักดิ์สิทธิ์ที่ท่านอาจารย์บุญทองได้กล่าวแก่หลวงพ่อสมพรหลังจากที่หลวงพ่อสมพรได้ผ่านพิธีกลืนพระธาตุทองไปแล้วก่อนจากกันท่านอาจารย์บุญทองได้บอกกับหลวงพ่อสมพรว่า หลวงพ่อสมพรต้องไปเอามณี หรือแก้วบารมีที่เป็นสุดยอดเหล็กไหลจาก "อาจารย์ในดง" ที่เป็นศิษย์น้องของท่านที่จังหวัดชัยภูมิ เพราะหลวงปู่เทพอุดรได้ประทานให้หลวงสมพรตั้งนานแช้ว โดยให้อาจารย์ในดงเอาแก้วบารมีชิ้นนี้ไปเก็บไว้อีกภพภูมิหนึ่งดังนั้นหลวงพ่อสมพรจึงต้องเดินทางด้วยเท้าเข้าไปหาอาจารย์ในดงถึงอาศรมในดงที่จังหวัดชัยภูมิพอเจอหน้ากัน อาจารย์ในดงรู้ทันทีว่าหลวงพ่อสมพรคือ "ผู้มีบุญ" ที่หลวงปู่เทพโลกอุดรเคยบอกอาจารย์ในดงเมื่อสิบกว่าปีก่อนนั่นเองตอนนั้นอาจารย์ในดงกำลังทำงานอยู่กลางทุ่ง ขณะที่เขาได้เห็นภิกษุรูปหนึ่งเดินตัวเบาบนยอดหญ้าลอยมาหาเขาช้าๆอาจารย์ในดงเจอหลวงปู่เทพโลกอุดรตัวเป็นๆครั้งแรกในลักษณะนี้ และกลายเป็นศิษย์ฆราวาสของหลวงปู่เทพโลกอุดรตั้งแต่ตอนนั้น โดยหลวงปู่เทพโลกอุดรได้ถ่ายทอดสรรพวิชาทางจิตอันเร้นลับให้แก่อาจารย์ในดงทางสมาธิอย่างต่อเนื่อง และหลวงปู่เทพโลกอุดรยังสั่งให้อาจารย์ในดงสร้างอาศรมในดงขึ้นมาเพื่อรอเจอ "ผู้มีบุญ" ที่นั่น..........อาจารย์ในดงพาหลวงพ่อสมพรขึ้นไปนั่งสมาธิที่หน้าถ้ำเล็กๆแห่งหนึ่งบนเนินเขาที่อยู่ไม่ไกลจากอาศรมในดงในค่ำคืนนั้นอาจารย์ในดงบอกให้หลวงพ่อสมพรหลับตาเจริญอาโปกสิณ สักพักหลวงพ่อสมพรก็ได้ยินเสียงเหมือนงูใหญ่ตัวหนึ่งกำลังเลื้อยลงมาจากภูเขา แล้วเลื้อยผ่านตัวหลวงพ่อสมพรไปหลวงพ่อสมพรสัมผัสได้ถึงความเปียกชื้นบริเวณต้นแขนและจีวรที่งูใหญ่ตัวนั้นเลื้อยผ่าน"ท่านนาคราชโปรดมอบแก้วบารมีที่ข้าพเจ้าฝากให้ท่านดูแลรักษามานานปี แก่ภิกษุผู้มีบารมีรูปนี้ด้วยเทอญ"หลวงพ่อสมพรได้ยินคำประกาศด้วยเสียงอันดังของอาจารย์ในดง จากนั้นหลวงพ่อสมพรก็ได้ยินเสียงวัตถุชิ้นหนึ่งตกลงมาในบาตรที่วางอยู่ตรงหน้าท่านเมื่อลืมตาขึ้น หลวงพ่อสมพรเห็นแก้วสีเลือดนกขนาดไข่นกกระทาปรากฏอยู่ในบาตร"แก้วสีเลือดนกคือแก้วองค์ประธานครู ที่เป็นสัญลักษณ์รับรองว่าเป็นทายาทสายตรงของหลวงปู่เทพโลกอุดร"อาจารย์ในดงอธิบายกับหลวงพ่อสมพรสั้นๆพร้อมกับบอกว่าพรุ่งนี้ท่านจะพาหลวงพ่อสมพรไปอัญเชิญ "แก้วพรรณราย" ที่ถ้ำแก้วเพื่อเปิดบารมีวันรุ่งขึ้นตอนบ่ายแก่ๆ อาจารย์ในดงพาหลวงพ่อสมพรไปที่ถ้ำแก้วซึ่งเป็นถ้ำใหญ่ ทั้งสองต้องเดินไต่ผนังถ้ำด้านซ้ายมือเพื่อไปอัญเชิญแก้วพรรณรายให้ปรากฏในดอกบัวที่อยู่ในบาตรที่ถือขึ้นไป แล้ววางบาตรไว้ที่ชะง่อนหิน แล้วนั่งบริกรรมห่างออกมาราวห้าเมตรเพียงแค่ไม่กี่อึดใจ ผนังถ้ำไม่ไกลจากบาตรก็ระเบิดขึ้น พร้อมกับมีประกายไฟพุ่งออกมา ประกายไฟนั้นแล่นเข้ามาที่ตัวบาตรที่ตั้งอยู่มณีเสด็จเข้ามาในดอกบัวที่ใช้ผ้าขาวห่อไว้แล้วมัดด้วยสายสิญจน์ เมื่อออกจากถ้ำและกลับไปอาศรมในดงเพื่อแกะสายสิญจน์ออก ปรากฏว่ามีแก้วพรรณรายที่ข้างในมีพระธาตุหลากสีอยู่ในดอกบัวจริงๆ ดดยที่ทั้งดอกบัวและผ้าขาวไม่มีรอยถูกไฟไหม้เลย ทั้งๆที่เมื่อครู่เห็นเองกับตาว่ามีประกายไฟพุ่งเข้าไปในบาตรชัดๆ"ผมเชิญแก้วองค์ประธานครูกับแก้วพรรณรายเพือเปิดบารมีให้หลวงพ่อแล้ว ถือว่าผมหมดหน้าที่แล้ว ... หลวงพ่อต้องไม่บอกชื่อผมและเรื่องของผมให้คนอื่นทราบ เพราะผมต้องรอเจอผู้มีบุญอีกคนหนึ่งมาช่วยสร้างอาศรมของผมเสียก่อน ... ผมแสดงการอัญเชิญธาตุกายสิทธิ์ให้หลวงพ่อดูแล้ว ต่อไปหลวงพ่อต้องไปเรียนวิชาอัญเชิญธาตุกายสิทธิ์ด้วยตนเองจากฆราวาสอีกท่านหนึ่งซึ่งอยู่ที่ภาคใต้ ... หลังจากนั้นอีกไม่นานหลวงพ่อจะโด่งดังมากในฐานะปรมาจารย์ธาตุกายสิทธิ์แห่งยุค ...ในอนาคตวัดต่างๆทั่วประเทศนี้จะแห่มาขอธาตุกายสิทธิ์จากหลวงพ่อเพื่อเอาไปบรรจุในเจดีย์และพระพุทธรูป ผู้คนจะกลับมาเลื่อมใสศรัทธาในความศักดิ์สิทธิ์ของพุทธศาสนาผ่านช่องทางของธาตุกายสิทธิ์อีกช่องทางหนึ่ง"อาจารย์ในดงกล่าวกับหลวงพ่อสมพรอย่างยืดยาวพร้อมกับชี้ทางข้างหน้าให้หลวงพ่อสมพรอย่างจริงใจและตรงไปตรงมาหลวงพ่อสมพรอำลาอาจารย์ในดงด้วยความรู้สึกขอบคุณและความรู้สึกกระจ่างในวิถีข้างหน้าของตัวเองว่าจะมุ่งไปในทิศทางใดการเจอกันระหว่างหลวงพ่อสมพรกับท่านอาจารย์ไข่ผู้เป็นปรมาจารย์เหล็กไหลแห่งแดนใต้ จึงเป็นเรื่องของเวลาเท่านั้นหลังจากทั้งคู่ได้พบกันและเป็นศิษย์อาจารย์กัน ประวัติศาสตร์เหล็กไหลธาตุกายสิทธิ์ในเมืองไทยก็พลิกโฉมจากหน้ามือเป็นหลังมือขณะนั้นคือปี ค.ศ. 2013 ... เจ็ดปีก่อนเกิดวิกฤตหายนะโลกเส้นทางของปรามาจารย์ธาตุกายสิทธิ์แห่งยุคอย่างพระอาจารย์สมพร กับเส้นทางของ "มังกรจักรวาล" อย่างผม กำลังใกล้มาบรรจบกันบน "วิถีพุทธะกายสิทธิ์" ของหลวงปู่ทวดและหลวงปู่เทพโลกอุดร(ยังมีต่อ)สุวินัย ภรณวลัย